The Personal Trainer Code of Ethics
(จรรยาบรรณของครูฝึกสอนส่วนบุคคล)
สิ่งที่ผู้ฝึกสอนส่วนบุคคลควรมี1.จรรยาบรรณของผู้ฝึกสอนส่วนบุคคล
จรรยาบรรณของผู้ฝึกสอนส่วนบุคคล (ACE, 2010) ได้ให้แนวทางเป็นมาตรฐานในการปฏิบัติว่าผู้ฝึกสอนส่วนตัวมืออาชีพนั้นจำเป็นต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่ที่กำหนดไว้ ตลอดจนการปฏิบัติตามมาตรฐานชองอุสาหกรรมฟิตเนสที่มีการยอมรับและรับรอง นอกจากจะมีความเป็นมืออาชีพแล้ว จะต้องมีความรับผิดชอบการเรียนรู้ทุกๆด้านของจรรยาบรรณของผู้ฝึกสอนส่วนตัวสำหรับการเป็นมืออาชีพอีกด้วยจรรยาบรรณของผู้ฝึกสอนส่วนบุคคล มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้ผู้ฝึกสอนส่วนบุคคลที่ผ่านการรับรองจากสถาบัน คงรักษาระดับของความเป็นมืออาชีพและการปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและความรับผิดชอบต่อสาธารณชน ความรับผิดชอบต่อวิชาชีพ ดังต่อไปนี้
1.1ความรับผิดชอบต่อสาธารณชน
-ผู้ฝึกสอนส่วนบุคคล จะต้องให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายให้สอดคล้องกันกับหลักการวิทยาศาสตร์และการแพทย์
-ผู้ฝึกสอนส่วนบุคคล จะต้องเคารพสิทธิส่วนลูกค้า เพื่อนร่วมงาน และบุคลากรทางการแพทย์ และเก็บข้อมูลของลูกค้าไว้เป็นความลับ ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายที่กำหนด
-ข้อมูลเกี่ยวกับการฝึกของลูกค้าต้องเก็บเป็นความลับ ไม่สามารถนำไปเปิดเผยให้กับบุคคลภายนอก หรือบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรับทราบ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากลูกค้าเป็นลายลักษณ์อักษรหรือตามกระบวนการทางกฎหมาย
-ผู้ฝึกสอนส่วนบุคคล จำต้องมีความซื่อตรงต่อคุณสมบัติและข้อจำกัดให้สอดคล้องกับความสามารถของตน และให้บริการตามความสามารถของพวกเขา
1.2ความรับผิดชอบต่อวิชาชีพ
-ผู้ฝึกสอนส่วนบุคคล ควรปฏิบัติหน้าที่ใต้ขอบเขตที่กำหนดไว้ ไม่ควรให้การบริการที่นอกเหนือจากข้อมูลจำกัดตามกฎหมายแนะนำแก่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์อื่นๆ
-ผู้ฝึกสอนส่วนบุคคล ควรปฏิบัติหน้าที่ภายใต้ขอบเขตที่กำหนดไว้ และไม่ควรให้การบริการที่ละเมิดข้อจำกัดตามกฎหมายในการให้คำแนะนำแก่ผู้เชียวชาญทางการแพทย์อื่นๆ
-ผู้ฝึกสอนส่วนบุคคล ควรจะรักษาความเป็นมาตรฐานของมืออาชีพตามข้อกำหนดของรัฐบาลเพื่อที่จะคงรักษาการรับรองตามมาตรฐานต่อไป
-ในการกล่าวหรืออ้างอิงข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายทั้งหมด ควรอ้างที่มาจากหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับเป็นมาตรฐาน เช่น การอ้างอิงที่มาของบทความ หรืองานวิจัย เป็นต้น
-เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดในการได้รับใบอนุญาตและการจดทะเบียนแล้ว ผู้ฝึกสอนส่วนบุคคล จะได้รับอนุมัติจากการศึกษาในหลักสูตรเสริม เพื่อเป้าหมายในการรักษาและพัฒนาความรู้, ความสามารถและทัศนคติในวิชาชีพของตน
2.การให้คำแนะนำในการออกกำลังการอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
ACE (2010) ได้กล่าวว่าผู้ฝึกสอนส่วนบุคคลที่ได้รับใบรับรองจาก ACE ต้องมีการแนะนำและสอนให้ลูกค้าออกกำลังกายอย่างถูกต้อง ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดตามที่ ACE ได้กำหนดไว้
ความปลอดภัย(Safe): หมายถึง การให้คำแนะนำที่ไม่เกิดผลเสียต่อทางร่างกาย ทางจิตใจและทรัพย์สิน
ประสิทธิภาพ(Effective): หมายถึง คำแนะนำที่มีจุดมุ่งหมายที่สอดคล้องกับความต้องการเพื่อให้ได้ผลตามที่ลูกค้าตั้งใจไว้
3.การตรวจสุขภาพเบื้องต้น
ผู้ฝึกสอนส่วนบุคคล ควรที่จะทราบถึงข้อมูลสุขภาพของลูกค้าก่อน เพื่อความปลอดภัยในการออกกำลังกาย ถ้าพบลูกค้ามีปัจจัยเสี่ยง อาการหรือข้อบ่งชี้ ถึงการมีโรค ควรส่งลูกค้าให้แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญตรวจดูอาการให้แน่นอนก่อน และอาจจะขอคำแนะนำในการทดสอบหรือออกกำลังกายที่ปลอดภัยให้กับลูกค้าต่อไป รวมทั้งทราบถึงข้อห้ามหรือลักษณะที่เสี่ยงต่อโรค ถ้าลูกค้าไม่ต้องการไปพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนให้ลูกค้าเขียนใบยินยอมเพื่อป้องกันตัวครูผู้ฝึกสอนส่วนบุคคลและบริษัทจากความรับผิดชอบต่างๆที่จะเกิดขึ้น ในระหว่างที่ออกกำลังกายหรือมีการทดสอบสภาพร่างกายกับทางผู้ฝึกสอนส่วนตัว การตรวจเช็คประวัติสุขภาพของลูกค้าเพื่อดูสุขภาพ รวมถึงประวัติการใช้ยา การรักษาโรค รวมถึงการป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น และการเตรียมพร้อมเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา
4.การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
สำหรับผู้ที่ได้รับใบรับรองจาก ACE ควรที่จะต้องทำการประเมินสุขภาพเพื่อกำหนดระดับความเหมาะสมและระดับความแข็งแรงของลูกค้าก่อน ที่จะมีการออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกาย
ก่อนการประเมินคุณควร:
1. อธิบายถึงปัจจัยที่เสี่ยงและประโยชน์ที่จะได้รับ ในการทดสอบนั้นๆ
2. ให้คำแนะนำต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบ
3. เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สอบถามถึงข้อสงสัยต่างๆ
4. ให้ลูกค้าอ่านและทำความเข้าใจกับรายละเอียดต่างๆ และลงลายเซ็นในหนังสือยินยอม
สำหรับประเภทและลำดับของการประเมินสุขภาพ ขึ้นอยู่กับสุขภาพ ระดับความแข็งแรง อาการบ่งชี้ต่างๆ และการใช้ยาของลูกค้าเป็นหลัก คุณควรทำการประเมินภายใต้ขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่ของคุณเท่านั้น สำหรับการประเมินอื่นๆ ควรดำเนินการ โดยผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรทางการแพทย์หลังจากทำการทดสอบเสร็จแล้วให้ประเมินผล และอธิบายถึงผลที่ได้ให้กับลูกค้าเพื่อหาข้อสรุป กำหนด ครูฝึกสอนส่วนบุคคลต้องค่อยสอน ให้ให้ความรู้กับลูกค้า ให้เห็นถึงประโยชน์ของโปรแกรมการออกกำลังกายที่ลูกค้าจะได้รับ
5.การออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกาย
ครูฝึกสอนส่วนบุคคล ไม่ควรกำหนดรูปแบบของการออกกำลังกายในเชิงรักษา การกำหนดอาหาร หรือให้คำปรึกษานอกเหนือหรือจากขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่ที่รับผิดชอบ ขอบเขตของการปฏิบัติหน้าที่ของคุณคือ การออกแบบโปรแกรมการออกกำลังการ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและสุขภาพ ในขณะที่ค่อยระวังถึงข้อจำกัดต่างๆ รวมถึงการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นในขณะที่มีการออกกำลังกาย รวมถึงการรับฟังคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการกำหนดรูปแบบการออกกำลังกาย
ในสหรัฐอเมริกา ขอบเขตของการปฏิบัติงานของนักโภชนาการและการกำหนดอาหาร เป็นข้อกำหนดตามกฎหมายที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละพื้นที่ ดังนั้นคุณควรจะทราบถึงข้อมูลของกฎหมายข้อบังคับในแต่ละพื้นที่ เพื่อที่คุณจะได้ถ่ายทอดให้ลูกค้าอย่างถูกต้องและเหมาะสม
การออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายควรที่จะต้องเป็นทั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติที่คุณควรที่จะต้องพิจารณา และโปรแกรมนั้นสามารถที่จะทำได้จริงให้เหมาะสมกับระดับความแข็งแรงของลูกค้าในปัจจุบัน
การออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกาย คุณจะต้องระบุรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับวิธีการ, ระดับความหนัก, ประเภทของการออกกำลังกาย, ระยะเวลา, ความก้าวหน้า, การสิ้นสุดโปรแกรม
6.สิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่ออกกำลังกาย
ครูฝึกสอนส่วนบุคคล ต้องแน่ใจว่าจะไม่มีสิ่งใดที่ทำให้เกิดอันตรายต่อลูกค้าในขณะที่มีการออกกำลังกาย ถ้าเกิดพบเห็นสิ่งที่เป็นอันตรายต่อผู้อื่นในสถานที่ออกกำลังกาย ให้แจ้งต่อผู้รับผิดชอบสถานที่นั้นๆ รวมถึงลูกค้า เพื่อจัดการและหลีกเหลี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้น ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าพบว่าตัวล็อก น้ำหนักกับบาร์เบลเกิดมีสนิมขึ้นหรือหลวมล็อกไม่อยู่ เราควรจะเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ เพื่อไม่ให้ใครมาใช้แล้วเกิดอันตราย และควรแจ้งเจ้าหน้าที่ที่ค่อยดูแลมาซ่อมแซมเครื่องมือให้เรียบร้อย
**อ้างอิงจากหนังสือการเป็นผู้ฝึกสอนส่วนบุคคล ACE 2010
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น